พระสมเด็จหลวงพ่อทบ พิมพ์เกศบัวตูมออกวัดโบสถ์โพธิ์ทอง รุ่นเสาร์ ๕ ปี2516เนื้อผงพุทธคุณผสมมวลสารต่างๆมากมาย วันเสาร์ ๕ ถือเป็นวันแข็ง วันแรง วัตถุมงคลใดปลุกเสกในวันเสาร์ ๕ ย่อมมีพุทธคุณเข้มขลังเป็นทวีคูณครับ
พระครูวิชิตพัชราจารย์ หรือหลวงพ่อทบ ธัมมปัญโญ อดีตเจ้าอาวาสวัดพระพุทธบาทชนแดน อ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์ มีพลังจิตแก่กล้าเหนือธรรมชาติ จนมีการตั้งสมญานามว่า "เทพเจ้าแห่งความเมตตา" อ.ชนแดน จ.เพชบูรณ์ ท่านได้เข้าอุปสมบทที่วัดเกะแก้ว บ้านนายม อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ เมื่อ พ.ศ.๒๔๔๕ โดยมีพระครูเมืองเป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ปานเป็นพระกรรมวาจา พระสีเป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า ธมฺมปัญโญ จากนั้นท่านก็ได้ศึกษาพระธรรมวินัย และวิปัสนากรรมฐานจากพระอาจารย์ปานวัดศิลาโมง และพระอาจารย์เหง้า วัดบ้านติ้ว อ.หล่มสัก และออกธุดงค์แต่บัดนั้น
หลวงพ่อทบ เป็นผู้มีชื่อเสียงที่เป็นที่รู้จักกันทั่วไป ก็เมื่อคราวได้รับนิมนต์ให้เข้าร่วมในพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคลที่วัดสุทัศนเทพวราราม มีช่างภาพทำการถ่ายภาพของท่านโดยไม่ได้รับอนุญาตก่อน เมื่อช่างภาพกดชัตเตอร์ แต่กดเท่าไรชัตเตอร์ก็ไม่ยอมทำงาน จนต้องไปขออนุญาตจากท่านจึงจะสามารถจะกดชัตเตอร์ได้ เมื่อนำฟิล์มไปล้าง ปรากฏว่าถ่ายภาพไม่ติด ทั้งที่ภาพพระเกจิอาจารย์อื่นๆ ถ่ายติดหมด
หลวงพ่อทบ ท่านเป็นพระที่มีเมตตา เยือกเย็นสุขุม ปรานีต่อสรรพสัตว์ทั้งหลาย พูดน้อย ชอบการก่อสร้าง จะเห็นได้ว่าภายหลังจากที่ท่านได้อุปสมบทแล้ว ได้ทำการก่อสร้างบูรณะวัดวาอาราม ไปตามสถานที่ต่างๆ ท่านได้เป็นผู้นำก่อสร้างพระอุโบสถสำเร็จเรียบร้อยไปแล้วถึง ๑๖ หลัง ทั้งยังได้วางศิลาฤกษ์หลังที่ ๑๗ ไว้แล้วที่วัดช้างเผือก ต.วังชมภู อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ ก็พอดีท่านมรณภาพเสียก่อน ทั้งนี้ไม่นับผลงานของท่านอีกมากมาย เช่น กุฏิสงฆ์ ศาลาการเปรียญ บ่อน้ำ สระน้ำ และอื่นๆ อีก
คุณวิเศษอีกอย่างหนึ่งของหลวงพ่อทบก็คือ ท่านเป็นพระภิกษุที่ไม่เลือกชั้นวรรณะ ตลอดชีวิตของท่านให้การต้อนรับบุคคลทั้งหลายเท่าเทียมกัน ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการมียศถาบรรดาศักดิ์ใหญ่โตเพียงใด มั่งมีหรือยากจน ผู้ใดเดินทางไปกราบท่านก็จะได้รับการต้อนรับเท่าเทียมกันหมด ไม่มียินดียินร้ายหรือทะเยอทะยานในลาภ ยศ สรรเสริญ ตรงกันข้าม เมื่อผู้ใดมีความทุกข์ไปหาท่าน ก็จะได้รับความช่วยเหลือเป็นอย่างดี เป็นผู้มักน้อยสันโดษ ไม่นิยมการสะสมเงินทองหรือทรัพย์สมบัติใดๆ ดังนั้นจะเห็นได้ว่าเมื่อท่านมรณภาพแล้วจึงไม่มีทรัพทย์สินใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับทางโลกอันเป็นส่วนตัวของท่านเลยแม้แต่น้อย
หลวงพ่อทบ มรณภาพที่วัดวัดช้างเผือก เมื่อวันที่ ๑๙ มีนาคม พ.ศ.๒๕๑๙ รวมสิริอายุได้ ๙๕ ปี ๗๔ พรรษา ศิษยานุศิษย์และบรรดาผู้เคราพนับถือท่านได้นำสังขารของท่านบรรจุไว้ในโลงแก้วเพื่อสักการบูชาตลอดไป ถึงแม้ว่าหลวงพ่อทบจะได้ละสังขารไปจากพวกเราแล้วก็ตาม แต่ท่านก็ได้สร้างสมคุณงามความดีเอาไว้ทั้งทางโลกและทางธรรม เป็นอเนกอนันต์คุณให้ชนรุ่นหลังได้รำลึกถึงคุณงามความดีของท่านไปอีกนานแสนนาน